วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

*การรบที่วอเตอลู



การรบที่วอเตอร์ลู (Battle of Waterloo)
ส่วนหนึ่งของสงครามนโปเลียน

วันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1815 (พ.ศ. 2358)
สถานที่ วอเตอร์ลู, เบลเยียม
ผลการรบ
ฝ่ายกำลังผสม 7 ชาติ ชนะอย่างเด็ดขาด
คู่สงคราม
ฝรั่งเศส - กองกำลังผสม 7 ชาติ
(สหราชอาณาจักร,
ปรัซเซีย,
สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์,
ฮันโนเวอร์,
รัฐนัสซอ,
บรันสวิก-ลึนเบิร์ก)

ผู้บัญชาการรบ
นโปเลียนที่ 1 (นโปเลียน โบนาปาร์ต) - ดยุกแห่งเวลลิงตัน (สหราชอาณาจักร)
มิเชล เนย์ (เจ้าชายลำดับที่ 1 แห่งมอสโควา) - เจบาร์ด ฟอน บึนเชอร์ (ปรัซเซีย)

กำลังรบ
73,000 - 67,000 พันธมิตรแห่งสหราชอาณาจักร
64,000 ทหารปรัซเซีย (48,000 ได้รับการว่าจ้าง)

ความสูญเสีย
25,000 เสียชีวิต/บาดเจ็บ - 22,000 เสียชีวิต/บาดเจ็บ
15,000 หายสาบสูญ
7,000 ถูกคุมขัง


บทสรุป
ฝรั่งเศสแพ้ และนโปเลียนก็ถูกส่งไปยังเกาะเซนต์เฮเลน่าในมหาสมุทรแอตแลนติกในภายหลัง และก็สิ้นพระชนม์ที่นั่นด้วยพระชนมายุ 51 พรรษา (นโปเลียนที่ 1 ; เกิด 15 สิงหาคม ค.ศ. 1769 (พ.ศ. 2312) - สิ้นพระชนม์ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1821 (พ.ศ. 2364)) โดยฝรั่งเศสนั้นเหลือพื้นที่น้อยกว่าก่อนการปฏิวัติเสียอีก ถ้าจะเห็นเป็นเค้าราง ก็ตอนที่พระองค์แพ้ที่มอสโคนั่นเลยครับ ถ้าเราจะบอกว่า พระองค์ทะเยอทะยานเกินไปก็คงไม่ผิดนัก เพราะพระองค์ดำริว่า "การมีกองทัพที่ใหญ่โตนั้น จะสามารถทำให้กรุงปารีสเป็นศูนย์กลางของยุโรปได้" ตอนแพ้กลศึกแบบกองโจรของรัสเซียนี้ ก็เกือบเอาพระองค์ไม่รอดเหมือนกัน...การศึกครั้งนี้จึงเป็นครั้งสุดท้ายที่พระองค์ได้ฝากฝีมือไว้ ก่อนที่จะสิ้นอำนาจของพระองค์เป็นการถาวร...
***

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

**9 วิธีกำจัด ยุง มด แมลงสาป



บ้านไหนที่กำลังหาวิธีกำจัดยุง มด แมลงสาบ ลองทำตามกันได้เลยค่ะ

1.ใช้ฟองน้ำเปียก ๆ เช็ดตามทางมด มดจะหาทางเดินไม่เจอ

2.โรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟ ตามบริเวณที่มดเดินหรือบีบมะนาวตามรูเข้าของมด หรือทิ้งเปลือกมะนาวไว้ตรงนั้น ปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้าน มดจะไม่กล้าเข้าใกล้

3.ใช้ผงฟูโรยตามทางของมด หรือใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดตามทางเดินมด แมลงสาบ

4.ใช้ข้าวโอ๊ตหรือแป้งข้าวโพดผสมปูนปาสเตอร์อย่างละเท่า ๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน เมื่อแมลงสาบกินเข้าไปปูนพลาสเตอร์จะแข็งตัว ทำให้แมลงสาบตาย

5.ใช้ผงฟูผสมกับน้ำตาลทรายอย่างละเท่าๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน

6.ใช้แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ บอแร๊กซ์ 4 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันใช้ โรยบริเวณที่ยุงมารบกวน

7.เอาตะไคร้หอมหั่นแล้วตำ คั้นเอาแต่น้ำแล้วนำไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมันใช้ทาผิวหนังกันยุง

8.ใช้กาบมะพร้าวหรือเปลือกส้มตากแห้งจุดไฟ เพื่อให้เกิดควันไล่ยุง

9.ปลูกต้นแก้วหรือต้นราตรีไว้บริเวณประตูและหน้าต่าง จะช่วยไล่ยุงได้

*แค่นี้บ้านของทุกคนก็จะไม่ถูก มด แมลงสาป มากวนใจ แร้วคร่ะ

-------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

" อัตราย!! จาก...คอนเเทคเลนส์ "


“คอนแทคเลนส์” หรือ “เลนส์สัมผัส” จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่งที่ใช้เพื่อปรับสายตา
แต่!!ในปัจจุบันได้มีการนำเอาคอนแทคเลนส์มาใช้สวมใส่เพื่อความสวยงาม
ซึ่งมีทั้งแบบที่ทำให้ดวงตา ดูกลมโตขึ้น และแบบที่ช่วย เปลี่ยนสีตาเป็นสีต่าง ๆ ได้

กระแสคอนแทคเลนส์แฟชั่นได้แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณต้นปี 2549 ที่ผ่านมา โดยวัยรุ่นไทยนิยมใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อให้ตา กลมโตเลียนแบบดาราเกาหลี และญี่ปุ่น

คอนแทคเลนส์แฟชั่นดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในนาม บิ๊กอายส์ หรือ คอนแทคเลนส์ตาโต
ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ระยะเวลาการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย
ตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 1 ปี
ปัจจุบันคอนแทคเลนส์แฟชั่นไม่ได้มีวางจำหน่ายแต่เฉพาะในร้านแว่นตา หรือคลินิกจักษุแพทย์เท่านั้น

แต่!!ยังมีวางขายตามแผงค้าตามแหล่งแฟชั่น รวมไปถึงการวางจำหน่ายในเว็บไซต์
ทำให้ผู้บริโภคหาซื้อคอนแทคเลนส์แฟชั่นมาสวมใส่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
แต่!!ไม่ว่าจะใช้คอนแทคเลนส์เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม
เลนส์ที่ใช้จะต้องสัมผัสกับผิวของดวงตาที่บอบบาง การติดเชื้อหรือฉีกขาดอาจเกิดได้ง่าย
จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
การใช้คอนแทคเลนส์หากใช้ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้และอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ เหมือนกับข่าวเมื่อปลายปี 49 ที่ผ่านมา ที่มีชายชาวนิวซีแลนด์ที่ตาบอดจากการสวมใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อความสนุกสนานในงานปาร์ตี้จนเกิดการติดเชื้อหลังสวมใส่คอนแทคเลนส์นาน 3 วันทั้งนี้การใส่คอนแทคเลนส์จะต้องได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยทัศนมาตรศาสตร์ โดยผู้สวมใส่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ หรือนักทัศนมาตรศาสตร์ หรือคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัดและเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดทำมาตรการกำกับดูแลคอนแทคเลนส์ทุกประเภทให้เข้มงวดมากขึ้น โดยได้จัดทำร่างประกาศกำหนดให้คอนแทคเลนส์ทุกประเภท เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า จะต้องแจ้งรายละเอียดต่ออย.ก่อนผลิตหรือนำเข้า
อีกทั้งกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าต้องจำหน่ายคอนแทคเลนส์ให้กับสถานที่ที่กำหนดเท่านั้น เช่น สถานพยาบาล ผู้บริโภคไม่ควรซื้อคอนแทคเลนส์ที่จำหน่ายตามแผงลอย เพราะอาจเป็นอันตรายถึงตาบอดได้นอกจากนี้ อย. ยังได้กำหนดให้ฉลากของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะต้องมีคำเตือน ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวังต่าง ๆ บนฉลากอย่างชัดเจนนพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ....
“ประชาชนควรระมัดระวังการใช้คอนแทคเลนส์ทุกชนิด โดยไม่ควรซื้อมาใช้เอง และซื้อจากร้านที่เป็นแผงลอย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด และหากมีภาวะผิดปกติ เช่น ต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง ตาแห้ง กะพริบตาไม่เต็มที่ ก็ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์”

*******************************

สิ่งที่สำคัญที่ต้องระลึกถึงอยู่เสมอคือเรื่องสุขลักษณะ ต้องล้างมือให้สะอาดและทำให้แห้งก่อนสัมผัสเลนส์ การสวมและการเปลี่ยนเลนส์ก็ให้เป็นไปตามระยะที่กำหนด การล้างและการเก็บรักษาเลนส์ก็ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนภาชนะที่เก็บเลนส์ก็ต้องรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ ห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับบุคคลอื่น ห้ามใส่ขณะว่ายน้ำเพราะอาจทำให้ติดเชื้อที่ตา และห้ามใส่เวลานอน ถึงแม้ว่าจะเป็นชนิดใส่นอนได้ก็ตาม และต้องถอดทำความสะอาดทุกวัน หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือปวดตาเป็นอย่างมาก ร่วมกับอาการแพ้แสง ตามัวลง น้ำตาไหลมาก ตาแดง ให้หยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันที และให้รีบไปพบแพทย์หรือจักษุแพทย์โดย